วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553

เพราะพระบารมี


เมื่อตอนผมยังเด็ก เรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนบ้านหย่วนเชียงคำนาคโรวาท ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา ตอนเย็นหลังเลิกเรียนวันหนึ่งผมกลับบ้านได้นั่งถอนหงอกให้แม่อุ๊ย แม่อุ๊ยก็เล่านิทานให้ฟัง สุดท้ายแม่อุ๊ยก็ชวนว่าวันพรุ่งนี้อุ๊ยจะไปรับเสด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งท่านจะได้เสด็จมาที่บ้านใหม่ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา จะไปด้วยกับอุ๊ยก่อ ผมก็ตอบว่าอยากไปๆๆๆ คืนนั้นก่อนนอนก็ตั้งความหวังว่าวันพรุ่งนี้จะได้รับเสด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งเคยเห็นแต่พระบรมฉายาลักษณ์ที่ติดอยู่หน้าห้องเรียนเท่านั้น พรุ่งนี้จะได้เห็นตัวจริงแล้ว นึกแล้วก็ให้รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก รุ่งเช้าก็เตรียมตัวแล้วก็เรียกหาแม่อุ๊ยๆๆ ไม่เจอถามคนในบ้านบอกว่าแม่อุ๊ยมีรถมารับไปแล้ว อ้าวแม่อุ๊ยคงลืมตามประสาคนแก่ ว่าได้ชวนเราแล้ว แต่ตอนไปคงลืม ทำไงล่ะทีนี้ ก็แต่งตัวแล้วนี่ แล้วก็ตามประสาเด็กๆ นั่นแหละคิดว่าบ้านใหม่ร่มเย็นมันคงไม่ไกลจากบ่านเราเท่าไหร่ (บ้านอยู่ที่บ้านหย่วน ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา) ก็เลยตัดสินใจว่าเดินไปก็ได้ ก็ถามคนแถวบ้านว่าบ้านไหม่ร่มเย็นไปทางไหน ซึ่งเค้าก็คงไม่ทันคิดอะไร และก็คงไม่คิดว่าผมจะเดินไป เค้าก็อธิบายว่าไปทางไหนอย่างไร จากนั้นผมก็ออกเดินทางทันทีโดยเดินไปดนเดียวตามทางที่คนข้างบ้านบอก จากบ้านหย่วนเดินผ่านบ้านตลาดแล้วก็เดินออกไปบ้านทุ่ง ระยะทางจากบ้านมาถึงตรงนี้ก็ประมาณ 4 กม.ได้ มีความมุ่งมั่นว่าจะไปรับเสด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทำให้ไม่รู้สึกเหนี่อยอะไร แล้วจู่ๆ ก็มีลุงคนหนึ่ง ขี่มอเตอร์ไซด์มาจอดลงหน้าผมแล้วก็ถามผมว่าจะไปใหนผมก็ตอบไปว่าจะไปบ้านร่มเย็นซึ่งลุงคนนั้น (ซึ่งเสียดายที่ผมจำชื่อลุงคนนี้ไม่ได้แล้ว) ก็จะไปเหมือนกัน ลุงบอกว่าป้าดโธ่ะ มันไกล๋นะไอ้น้อยมะซ้อนรถลุงนี่ ผมก็ขอบคุณแล้วนั่งซ้อนท้ายลุงทันที เมื่อมาถึงบ้านใหม่ร่มเย็นแล้ว ซึ่งถ้าผมเดินมาเอง ก็คงไม่ถึงแน่เพราะรู้สึกว่าขนาดนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์ลุงมายังนานมากกว่าจะถึง ถ้าเดินมาก็ไม่รู้ว่าจะถึงหรือปล่าว ซึ่งนั่นก็เป็นความประทับใจครั้งแรก และเป็นโชคดีของผมจริงๆ ต้องขอขอบคุณลุงคนนั้นมากๆ ซึ่งก็คิดว่าตอนนี่ลุงคงไม่มีอยู่ในโลกนี้แล้ว (โดยคิดจากเวลาที่ผมเรียน ป.4 จนเดี๋ยวนี้จะ 50 แล้ว) ผมก็ขอบคุณคุณลุงผู้ใจดีคนนั้นแล้วก็ออกเดินตามหาแม่อุ๊ย ก็คิดตามประสาเด็กว่า เดี๋ยวคงจะเจอแม่อุ๊ย แต่ไม่คิดว่า ผู้คนมาจากไหนไม่รู้มากมายมืดฟ้ามัวดินไปหมด เดินไปทางไหนก็ต้องเดินเบียดกับผู้คนแล้วเราก็เป็นเด็กตัวเล็กๆ เดินหาจนอ่อนก็บ่าป๊ะแม่อุ๊ยจนกระทั่งมีเสียงเจ้าหน้าที่ประกาศให้ทุกคนหยุดนั่งอยู่กับที่เพราะในหลวงท่านจะเสด็จแล้ว ผมก็ต้องหยุดเดินตามหาแม่อุ๊ยและนั่งอยู่กับที่ แต่ในหลวงก็ยังไม่เสด็จซัดทีเหนื่อยก็เหนื่อย หิวก็หิว ทั้งหิวน้ำ หิวทั้งข้าว กลุ่มคนข้างๆ ซึ่งมารับเสด็จทั้งครอบครัวผมพอรู้ว่าเป็นครอบครัวโกสิ่ว ซึ่งเป็นครอบครัวผู้มีอันจะกินครอบครัวหนึ่งใน อ.เชียงคำ แต่เค้าไม่รู้จักผมหรอกครับ ครอบครับโกสิ่ว ก็เอาข้าวห่อออกมาเพื่อกินด้วยกันทั้งครอบครัว อาจจะเป็นเพราะผมนั่งมองพวกเค้ากินมากเกินไปรึปล่าว รึว่าเค้าเห็นผมเป็นเด็ก นั่งอยู่คนเดียวก็ไม่ทราบได้ เค้าก็เลยถามผมว่ามากับใครกินข้าวแล้วรึยังหิวไหม ในที่สุดครอบครัวผู้ใจดีครอบครัวนี้ก็แบ่งข้าวให้ผมกินซึ่งเป็นข้าวที่อร่อยมากที่สุดในชีวิตเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้กินแมงดาชุบแป้งทอดซึ่งบ้านผมไม่เคยมีให้กินแน่ๆ ซึ่งผมต้องขอขอบคุณครอบครัวโกสิ่วและนึกขอบคุณครอบครัวนี้มาจนกระทั่งปัจจุบัน และนี่ก็เป็นความประทับใจครั้งที่ 2 ซึ่งผมอดคิดในตอนนี้ไม่ได้ว่ามันเป็นเพราะผมโชคดี หรือเป็นเพราะพระบารมีของพระองค์ท่านกันแน่ ที่ดลบันดาลความโชคดีให้ผมได้มารับเสด็จพระองค์ท่าน
ในที่สุดพระองค์ท่านก็เสด็จมาพร้อมกับพระราชินี ซึ่งผมเห็นพระองค์ท่านใกล้มากๆ ผมรู้สึกตื้นตันและปราบปลื้มใจมากที่สุดในชีวิตเป็นเพราะพระบารมีอย่างแท้จริงผมจึงได้มาเฝ้ารับเสด็จพระองค์ท่าน ผมเก็บความประทับใจในวันนั้นมาจนถึงเดี๋ยวนี้ยังไม่ลางเลือนไปแม้แต่น้อย พอพระองค์ท่านทั้งสองพระองค์เสด็จกลับแล้วผมก็เดินตามหาแม่อุ๊ยต่อเพื่อกลับบ้านแต่ก็หมดหวังเพราะเหลือรถสี่ล้อรับส่งผู้โดยสารไม่กี่คันแล้วแต่ไม่มีแม่อุ๊ยเลยซักคัน ผมตัดสินใจขึ้นรถโดยสารคันเกือบสุดท้ายที่มีที่ว่างพอเบียดตัวนั่งได้นิดนึงทั้งๆที่ ไม่มีเงินเลยซักบาทคิดว่าถ้าเค้ามาเก็บเงินค่าโดยสารก็จะบอกว่าไม่มีเงินเพราะผมหลงทางกับแม่อุ๊ยครับก็คิดว่าจะบอกเค้าไปอย่างนั้นครับ ในที่สุดรถก็กลับเข้าสู่ตลาดแล้วไปจอดที่หน้าโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม ครับคนขับรถคงเห็นว่าผมเป็นเด็กตัวเล็กๆ เลยไม่เก็บตังครับ นี่ก็เป็นอีกเหตุหนึ่งที่ผมโชคดีในวันนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผมตั้งแต่ตอนเช้าจนถึงเย็นเกือบจะมืดในวันนี้นั้น ผมคงอดคิดไม่ได้ว่านี่เป็นเพราะพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมของพระองค์ท่านโดยแท้ที่ทำให้ผมได้เข้าเฝ้ารับเสด็จพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิดได้ชื่นชมพระบารมีอย่างเต็มที่ และได้กลับถึงบ้านโดยปลอดภัย ด้วยความเหนื่อยอ่อนอย่างที่สุด แต่เป็นความประทับใจที่ไม่มีวันลืมสำหรับผมมาจนถึงทุกวันนี้ครับ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นายนพดล ประวัง โรงเรียนสันกำแพง